สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่านกลับมาพบกับชายหมอ (หมา) อีกเช่นเคยที่เว็บไซต์ Yippee Happy เพื่อเป็นการเข้ากับเทศกาลต่าง ๆ ที่กำลังจะมาถึงไม่ว่าจะเป็นช่วงคริสต์มาส  ปีใหม่สากล  ปีใหม่ไทย  ปีใหม่จีน(ตรุษจีน) หรือวาเลนไทน์ 

เรื่องที่ชายหมอ(หมา) จะมาเล่าในบทความนี้คือ เรื่องเกี่ยวกับการให้ของขวัญ แต่ไม่ใช่ของขวัญธรรมดาครับมันคือของขวัญที่มีชีวิต คือเหล่าสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ นั่นเอง...การให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญ ต้องทำอย่างไรผู้รับถึงจะดีใจ และของขวัญตัวนั้นไม่กลายเป็นภาระของสังคมในอนาคต มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ไปพร้อม ๆ กันครับ
 

    ก่อนที่เราจะมอบสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญแก่ใคร สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ผู้มอบของขวัญจะต้องรู้จักผู้รับของขวัญเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าผู้รับของขวัญนั้นมีความพร้อม และมีความต้องการที่จะเลี้ยงสัตว์ ให้ตระหนักเสมอว่าสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นตัวอะไรก็ตามพวกเค้ามีชีวิตไม่ต่างจากเรา  ดังนั้นเมื่อเรามอบชีวิตของเค้าให้ใครดูแลแล้ว เจ้าของคนใหม่ก็ต้องรับผิดชอบให้ดี มิเช่นนั้นจะกลายเป็นภาระสังคม กลายเป็นสัตว์จรจัดในอนาคตแน่นอนครับ

คุณผู้อ่านคงอยากทราบต่อว่า แล้วจะทราบได้อย่างไรว่า ใครบ้างที่พร้อมจะเลี้ยงสัตว์ หรือใครบ้างที่เราควรจะให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญ เรื่องนี้ดูไม่ยากครับ คนที่จะเลี้ยงสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้ จะต้อง มีเงิน มีเวลา มีพื้นที่บ้านเหมาะสม มีความเอาใจใส่ และที่สำคัญที่สุด คือมีความอยากเลี้ยงสัตว์นั่นเอง

สังเกตได้จาก ความเป็นคนรักสัตว์ เวลาไปเที่ยวบ้านคนอื่น มองเห็นน้องหมา น้องแมว แล้วชอบเข้าไปเล่นด้วย แต่ที่บ้านตัวเองไม่มีสัตว์เลี้ยง หรือมีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว แต่อยากเลี้ยงเพิ่ม มีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลได้ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้การสังเกตครับ และดีที่สุดคือถามกันตรง ๆ เลยครับ ว่าอยากรับสัตว์เลี้ยงสักตัวไปดูแลที่บ้านไหม และที่สำคัญ ขอย้ำเลยนะครับ ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญเพื่อหวังจะ surprise ผู้รับของขวัญ ต้องแน่ใจจริง ๆ ว่าเค้าพร้อมที่จะดูแลอีก 1 ชีวิตที่เพิ่มเข้ามา แค่นี้ก็จะทำให้ทั้งผู้ให้ของขวัญมีความสุขที่ได้ให้และผู้รับของขวัญก็มีความสุขที่ได้รับของขวัญอันมีค่านั่นเองครับ
 

    โอกาสไหนบ้างที่ควรให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญ คำถามนี้ ชายหมอ(หมา) ขอตอบง่าย ๆ เลยว่า ให้ได้ทุกโอกาสเลยครับ มีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือ ผู้รับของขวัญต้องพร้อมและอยากได้จริง ๆ จากประสบการณ์ของชายหมอ(หมา) มักพบการให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญในโอกาสต่าง ๆ ดังนี้
1. วันเกิด โอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีมากในการให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญ โดยเฉพาะถ้าผู้ให้ของขวัญ คือคุณพ่อกับคุณแม่ ซื้อน้องหมา หรือน้องแมวสักตัวเป็นของขวัญให้ลูก แล้วสอนให้ลูกดูแลสัตว์เลี้ยงร่วมกันเสมือนเป็นสมาชิกของครอบครัว กรณีนี้นอกจากสัตว์เลี้ยงจะมีความเป็นอยู่ที่ดีแล้ว ตัวเด็กเองก็จะได้เรียนรู้ทักษะหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการมีความรับผิดชอบ การดูแลเอาใจใส่ และยังส่งผลให้เด็กเติบโตขึ้นพร้อมกับนิสัยที่อ่อนโยน หากได้รับการสอนให้ดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้องไม่ใช้ความรุนแรง แต่ถ้าผู้ให้ของขวัญไม่ใช่คุณพ่อกับคุณแม่ กรณีนี้ชายหมอ(หมา)ไม่แนะนำครับ มันอาจจะเป็นการสร้างภาระให้ผู้รับโดยไม่เต็มใจ นอกเสียจากว่าผู้รับของขวัญมีความต้องการอยากเลี้ยงอยู่แล้ว และได้ปรึกษาผู้ปกครองก่อน ซึ่งแน่นอนครับผู้ให้ก็ต้องถามความต้องการโดยตรงห้าม surprise นะครับ

2. งานขึ้นบ้านใหม่ โอกาสนี้ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่เหมาะกับการให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญครับ เวลาขึ้นบ้านใหม่หรือย้ายบ้านใหม่ เจ้าของอาจจะอยากได้สัตว์เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน หรือเลี้ยงเป็นเพื่อนก็ได้ครับ ซึ่งกรณีนี้ก็ต้องถามกันตรง ๆ ว่า อยากได้สัตว์เลี้ยงสักตัวไหม บ้านมีพื้นที่ น่าจะเลี้ยงได้ คุยกันตรง ๆ ไปเลยครับ จากนั้นก็เลือกสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสม โดยอาจจะเป็นปลาทอง หรือปลามังกรพร้อมตู้ปลาที่สวยงาม นอกจากจะเอาไว้เลี้ยงคลายเหงาได้แล้ว ในทางฮวงจุ้ยก็ถือเป็นพลังงานที่ดีด้วยนะครับ หากที่บ้านมีพื้นที่เยอะหน่อย อาจจะให้น้องหมา น้องแมวสายพันธุ์ที่เจ้าของบ้านชอบ หรือสายพันธุ์ที่เป็นมงคลเช่น สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง, ทิเบตัน มาสทิฟฟ์, แมวมงคลต่าง ๆ ตามตำราไทยโบราณ แบบนี้ก็ถือว่าเหมาะสมครับ

3. วันครบรอบแต่งงาน อันนี้ย้ำเลยนะครับว่าขอให้ซื้อสัตว์เลี้ยงให้กันเฉพาะในคู่ที่แต่งงานแล้วเท่านั้น ยิ่งถ้ายังไม่มีลูกด้วยยิ่งดีเลยครับจะได้ช่วยกันดูแลเสมือนเป็นลูก หรือสมาชิกในครอบครับนั่นเอง สำหรับวันครบรอบการเป็นแฟนนั้น ชายหมอ(หมา)  ไม่ค่อยแนะนำ เหตุเพราะว่า การเป็นแฟนกันนั้นยังไม่มั่นคงเพียงพอที่จะเอาอีกชีวิตหนึ่งมาเสี่ยงด้วย วันนี้พวกคุณอาจจะรักกันดี รับน้องหมาสักตัวมาเลี้ยงพอวันหนึ่งเลิกกัน ต่างคนต่างให้ค่าน้องหมาว่าเป็นตัวแทนของอีกฝ่าย ไม่อยากเห็น ไม่อยากมีความทรงจำเดิมเหลืออยู่ เลยเนรเทศไปเป็นหมาจรจัด แบบนี้ไม่ดีนะครับ กรณีแบบนี้เกิดขึ้นจริงและบ่อยมากในสังคมไทย ทั้ง ๆ ที่สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลย สุดท้ายต้องกลายมาเป็นภาระสังคม เป็นเรื่องน่าเศร้ามากครับ

4. โอกาสอื่น ๆ นอกจาก 3 โอกาสข้างบนที่เหมาะมาก ๆ แล้ว โอกาสอื่น ๆ ก็สามารถให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญได้เช่นกันนะครับ ไม่ว่าจะเทศกาลใดก็ตาม มีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือ ผู้รับเค้าอยากได้และพร้อมที่จะดูแลก็พอแล้วครับ 

ชายหมอ(หมา) จะขอยกตัวอย่างคุณแม่ของชายหมอ(หมา)เอง ดังที่เคยเล่าไปแล้วว่าคุณแม่เป็นคนรักสัตว์มาก เลี้ยงประหนึ่งลูกคนที่ 3 นอกจาก ชายหมอ(หมา) และน้องสาว วันหนึ่งลูกคนที่ 3 เริ่มแก่และคงอยู่ได้ไม่นาน คุณแม่ก็ดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำจนวาระสุดท้าย จากนั้นได้ประกาศกร้าวว่าจะเลิกเลี้ยงหมา แมว แล้วนะ มันเป็นภาระมาก เมื่อเวลาผ่านไปสักหนึ่งสัปดาห์ คุณน้าเพื่อนสนิทของคุณแม่ที่เป็นคนรักสัตว์เช่นกัน ชวนคุณแม่ไปเที่ยวที่บ้าน และพาไปดูลูกหมาที่เพิ่งคลอด และแน่นอนลูกหมาตัวหนึ่งในครอกนั้นก็กลายมาเป็นลูกคนใหม่ของบ้านชาย หมอ(หมา)
นี่เรียกว่าเป็นการให้แม้จะไม่มีโอกาสพิเศษอะไรเลยก็สามารถทำได้ หากผู้รับของขวัญนั้นมีความพร้อม

เรื่องราวของการให้สัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญที่ชายหมอ(หมา)  นำมาแบ่งปันในบทความนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ และขอย้ำอีกครั้งว่าการจะให้สัตว์เลี้ยงแก่ใครสักคน ไม่ต้อง surprise นะครับ ถามความต้องการให้ชัดเจน เพื่อที่ผู้รับและผู้ให้จะได้มีความสุขทั้งคู่ ไม่สร้างภาระต่อสังคม สำหรับตอนนี้ชายหมอ(หมา) ก็คงต้องขอลากันไปก่อน จนกว่าจะพบกันใหม่ครับ 

บทความโดย
อ. น.สพ. ดร.เศรษฐกิตย์ จิตเสนาะ
DVM, Ph.D.(Pathobiology)