นายจ๋าหมาหนาว !!! 5 วิธีดูแลหมายามหน้าหนาวมาเยือน
แม้หมาจะมีขนไว้ให้ความอบอุ่น แต่ลมหนาวขนาดนี้ก็อาจช่วยได้ไม่มากนัก มาดูกันค่ะว่าเราจะให้ความอบอุ่นยามหมาหนาวได้อย่างไรบ้าง
ในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเย็นจับใจแบบนี้สุนัขของเราคงจะรู้สึกหนาวไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์เล็กหรือขนสั้น อย่างเช่น แจ็ค รัสเซลล์, ชิวาวา, บีเกิล ดังนั้นเจ้าของส่วนมากมักจะหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้กับสุนัขของตัวเอง เพื่อบรรเทาความหนาวเหน็บเหล่านั้น และป้องกันโรคต่าง ๆ ที่จะตามมา ได้แก่ โรคปอดบวม โรคไข้หวัด หรือโรคผิวหนังอักเสบ
วิธีดูแล และรักษาสุขภาพของสุนัขให้แข็งแรงตลอดหน้าหนาว
1. เสื้อผ้า และวิธีสวมใส่ที่ถูกต้อง
ทั้งนี้เสื้อผ้าที่คุณนำมาสวมใส่กันหนาวให้กับสุนัข ไม่ควรจะดูที่สีสันหรือความสวยงามภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะพิจารณาลักษณะ และความหนาของเนื้อผ้าด้วย เสื้อผ้าของสุนัขที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหน้าหนาวแบบนี้ก็คือ เสื้อที่มีคอทรงสูง อย่างเช่น เสื้อคอเต่า หรือเสื้อที่สามารถคลุมตั้งแต่โคนหางจนถึงลำคอของสุนัข นอกจากนี้แล้วควรสวมถุงเท้าให้กับเจ้าสี่ขาของคุณด้วยนะคะ เพราะพื้นภายในบ้านของคุณก็คงจะเย็นไม่น้อยเหมือนกัน อีกทั้งถุงเท้ายังช่วยปกป้องเท้าของสุนัขจาก จากสิ่งสกปรก ของมีคม สารเคมีต่าง ๆ รวมไปถึงโรคเท้าอักเสบ
2. พาสุนัขไปออกกำลังกาย
นอกจากนี้ การสวมเสื้อผ้าให้กับสุนัขเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ ดังนั้นในเวลาที่มีอากาศหนาวแบบนี้ควรจะพาสุนัขของคุณไปออกกำลังกายด้วยน่าจะดีกว่า โดยการพาออกไปวิ่งเล่นบ้างในระหว่างนั้นหากิจกรรมเสริมให้กับสุนัขด้วยเพื่อความสนุกสนาน อย่างเช่น การโยนลูกบอลหรือจานร่อนแล้วให้สุนัขคาบกลับมาคืน เป็นต้น ทั้งนี้ควรให้สุนัขทานน้ำสักเล็กน้อยก่อนออกกำลังกายด้วย และเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและสุนัขควรจะใส่สายจูงเอาไว้จะดีกว่า
3. ลดความถี่ในการอาบน้ำให้สุนัขลง
ในกรณีที่คุณต้องการทำความสะอาดร่างกายให้กับสุนัข ควรใช้น้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งทันทีหลังการอาบน้ำ ความถี่ของการอาบน้ำให้กับสุนัขไม่ควรเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะหากอาบน้ำให้กับสุนัขมากเกินไปจะลดปริมาณน้ำมันบนผิวหนัง ทำให้ผิวหนังและเส้นขนแห้ง และเกิดอาการคันสาเหตุหลักของโรคผิวหนังอักเสบ หากคุณจำเป็นต้องทำความสะอาดสุนัขบ่อยครั้งควรเปลี่ยนเป็นใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ๆ เช็ดตัวจะดีกว่า
4. เน้นให้อาหารที่มีโปรตีนสูง
เรื่องการให้อาหารของสุนัขสำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นแบบนี้ควรเน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เพื่อช่วยเสริมสร้างความอบอุ่นและช่วยเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นประโยชน์ต่อการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กับสุนัขอีกด้วย
5. เช็คประวัติสุขภาพของสุนัข
ที่สำคัญอย่าลืมตรวจเช็กประวัติการฉีดวัคซีน และพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วย เพื่อเช็กความแข็งแรงทั้งร่างกายภายนอกและระบบภายในร่างกายของสุนัข โดยเฉพาะไวรัสที่มาของโรคต่าง ๆ อย่างเช่น โรคไข้หวัด โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคไข้หัดสุนัข เพราะไวรัสเหล่านี้อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต อีกทั้งการฉีดวัคซีนยังช่วยลดอัตราการเป็นโรคแทรกแซงอื่น ๆ อีกด้วย
บทความอ้างอิง : pet.kapook.com