Blog

บทความน่ารู้

อยากรู้ไหม สุนัขกำลังคิดอะไรอยู่?

 

คุณเจ้าของเคยสงสัยกันไหมคะ...สุนัขกำลังคิดอะไรอยู่ตอนที่เขาจ้องหน้าคุณ?....

การสื่อสาร ถือว่าสำคัญต่อจิตใจสุนัขโดยตรง ถ้าเราเข้าใจหรือแปลลักษณะท่าทางของสุนัขผิดพลาด ทำให้สุนัขการตอบสนองที่ผิดพลาดกลับด้วยมาเช่นกัน  ส่งผลให้พฤติกรรมน่ารัก เปลี่ยนเป็นความก้าวร้าวไปเลยก็ได้ 

ทีมนักจิตวิทยาคณะแพทยศาสตร์ แห่ง University of Milan นำทีมโดย Dr.Sarah Marshall-Pescini ให้ความสนใจพฤติกรรมของสุนัขดังกล่าว ว่าเหมือนกับปฏิกิริยาของมนุษย์เด็กเล็ก เราเรียกพฤติกรรมนี้ว่า Social Referencing (การอ้างอิงทางสังคม) ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพยายามประเมินสถานการณ์ โดยใช้การแปลความจากการสังเกตผู้อื่น

กระบวนการนี้เป็นการชี้นำพฤติกรรมของเด็กในอนาคตได้ด้วย เช่น ถ้าเด็กเจองูแผ่แม่เบี้ยอยู่ในห้องนอน  เด็กจะหันมามองผู้ใหญ่ว่ามีปฏิกิริยาอย่างไร หากผู้ใหญ่หวีดร้อง กลัว ถอยหนี เด็กก็จะทำตาม พฤติกรรมนี้มีประโยชน์ เพราะทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงอันตรายได้นั่นเอง

ส่วนพฤติกรรม Social Referencing มีอยู่สองขั้นตอน 

ขั้นที่หนึ่ง เมื่อเด็กเจอวัตถุประหลาด หรือเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจ เด็กจะมองวัตถุ สลับกับหันมามองผู้เลี้ยงดู การมองสลับไปมาระหว่างหน้าผู้เลี้ยง กับวัตถุที่สงสัยคือสัญลักษณ์ของการสื่อสาร ทำให้ผู้เลี้ยงเด็กสนใจ และโฟกัสไปที่วัตถุต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว (ต่างกับการมองแบบปกติ) 

ขั้นที่สอง เด็กจะดูพฤติกรรม และการตอบสนองทางอารมณ์ของผู้ใหญ่ เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าควรเข้าไปเล่นหรือควรถอย

ในส่วนของพฤติกรรมของสุนัข ถ้าสุนัขของคุณมีอาการเหมือนเด็กดังที่กล่าวมา นั่นหมายความว่าสุนัขของคุณกำลังกังวล หรือไม่แน่ใจกับอะไรบางอย่าง เขาพยายามสื่อสารกับคุณ  เพื่อให้คุณยืนยันกับเขาว่าสิ่งนั้นปลอดภัยหรือไม่ สามารถเล่นได้ไหม ดังนั้นพวกเขาจึงจ้องหน้าคุณเพื่อรอคำตอบ...

เพื่อยืนยันว่าสุนัขของคุณมีพฤติกรรมแบบเดียวกับเด็กจริง นักวิจัยได้จำลองสถานการณ์ที่กระตุ้นความวิตกกังวลในสุนัข สถานการณ์นี้จะทำให้พวกมันเกิดความกังวลเล็กน้อย โดยใช้พัดลมธรรมดา และติดแผ่นพลาสติกยาวเป็นริ้ว ๆ ไว้ที่พัดลมเพื่อให้มันปลิว แค่นี้ก็ดูแปลกปลอมสุด ๆ สำหรับน้องหมาแล้วล่ะค่ะ


จากนั้น สุนัขถูกนำเข้ามาในห้อง และถอดสายจูงออก เมื่อพัดลมยังไม่ทำงาน พวกเขาจะเดินเล่นไปรอบ ๆ ห้องอย่างสบายใจ และแทบจะไม่ชำเลืองมองเจ้าของเลย แต่เมื่อเปิดพัดลมเท่านั้นแหละ 83% ของสุนัขมองเจ้าของทันที และมองกลับไปที่พัดลม สุนัขมองสลับไปมาเพื่อขอความเห็นจากเจ้าของ “หนูควรเข้าไปไหม? อันตรายหรือเปล่า? ” พวกเขาหยุดนิ่งและรอคำตอบจากเจ้าของ 


นอกจากนั้นสุนัขยังมีพฤติกรรมอื่น ๆ ที่แสดงออกด้วยท่าทาง หากเราเข้าใจท่าทางต่าง ๆ ของพวกเขาคุณเจ้าของก็จะรู้ถึงอารมณ์และความต้องการของสุนัขของคุณ เช่น
 

1.การแสดงความเป็นใหญ่ มีพละกำลังเหนือคู่ต่อสู้
เมื่อ สุนัข ยืนตัวตรง คอตั้ง ขาเหยียดตรง หางและหูตั้งขึ้น ขนรอบคอชูชัน และเป็นแนวยาวตลอดสันหลัง แกว่งหางไปมาอย่างช้า ๆ พร้อมขู่คำราม เป็นการแสดงความเป็นใหญ่ และมีพละกำลังเหนือกว่าคู่ต่อสู้


2.การแสดงท่าทางยอมแพ้
สุนัขที่ยอมแพ้ หรือให้การยอมรับว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่า จะแสดงท่าทางเข้าหาฝ่ายตรงข้ามทางด้านข้าง หมอบคลาน หางตกแกว่งไปมา เลียมือเลียเลียเท้า หรือเลียหน้าของอีกฝ่ายที่เหนือกว่า แต่หากตัวที่อ่อนแอกว่ารู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวยังไม่มากพอ มีพฤติกรรมอีกอย่าง คือ กลิ้งหงายท้อง หรือบางตัวอาจฉี่ออกมาด้วย


3.แสดงความดีใจหรือเป็นมิตร
สุนัขจะกะดิกหาง หรือแกว่งหางอย่างแรงจนก้นสะบัด เป็นการแสดงอาการยินดี ความเป็นมิตร และลูกฝูงก็จะทำท่าทางดีใจเช่นนี้เหมือนกันต่อฝูงค่ะ


4.แสดงอาการโกรธ

หลายครั้งสุนัขมักจะแสดงอารมณ์โกรธ เราเองก็มักตั้งคำถามว่าเขากำลัง คิดอะไรอยู่ จะแยกเขี้ยว ขู่คำราม โบกหางอย่างช้า ๆ เกร็งๆ อยู่ในระดับเดียวกับหลังของตนเอง


5.แสดงอาการกลัว

อาการกลัว มีความกังวลใจ หรือกลุ้มใจ หางจะห้อยตกอยู่ระหว่างก้น หรือแกว่งอย่างเกร็งๆ ตกอยู่ระหว่างก้นค่ะ


6.ทำหูตั้ง

สุนัขที่ทำหูตั้ง ตัวตรง แสดงว่ากำลังเตรียมพร้อมที่จะทำอะไรบางอย่าง หรือกำลังฟังเสียงอย่างตั้งอกตั้งใจ เพื่อเฝ้าระวังตลอดเวลาค่ะ


7.ทำหูลู่หรือตก

สุนัขที่ทำหูลู่ หรือหูตกไปข้างหลังเสมอกับแนวศีรษะมักเป็นสิ่งที่เรามองว่าน่ารักน่าชังเหลือเกิน แต่จริง ๆ แล้วเขากำลังแอบอารมณ์บางอย่าง ดั้งนั้นไม่ว่าเขาจะ คิดอะไรอยู่ ก็ตาม นั่นเป็นการบ่งบอกว่าเขากำลังดีใจ ยอมแพ้ หรือกลัวก็เป็นไปได้หมด ต้องดูสถานการณ์ขณะนั้นเพิ่มเติม จึงจะรู้ว่าสุนัขรู้สึกอย่างไร


8.ทำตาหรี่

ถ้าสุนัขทำตาหรี่ ความหมายที่หนึ่ง คือ กำลังมีความสุข จะสังเกตเห็นว่ามันยิ้มด้วย เชื่อว่าเพื่อนๆ ที่เลี้ยงน้องหมาคงจะเคยเห็นกันมาบ้าง และความหมายที่สอง คือ กำลังยอมแพ้นั่นเองค่ะ


9.ทำตาเบิกกว้าง และลุกโพลง

ถ้าสุนัขทำลักษณะท่าทางเช่นนี้ หมายความว่า เป็นอาการก้าวร้าว หรือเริ่มโมโห 


10.การจ้องตาสุนัข

การจ้องตาระหว่างสุนัขด้วยกันเอง หรือจ้องตากับคน มีความหมาย 2 อย่าง คือ แสดงความรัก ความอบอุ่นต่อกัน และท้าทายเพื่อการต่อสู้ ที่สำคัญคุณไม่ควรจ้องตาในขณะที่สุนัขกำลังหงุดหงิด หรือโมโห เพราะจะเป็นการยั่วยุให้สุนัขตรงเข้าทำร้ายคุณ

11.เราต้องเป็นเจ้านาย

สุนัขจะเริ่มเป็นตัวของตัวเอง ไม่ฟังคำสั่งที่เราเคยสอนให้ปฏิบัติตาม เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาวประมาณ 6 เดือน เช่น นั่ง หมอบ ฯลฯ ถ้าคุณตามใจเขาจนรู้สึกว่าแข็งแรง และมีพละกำลังมากกว่า สุนัขจะคิดว่า สามารถขึ้นเป็นผู้นำแทนคุณ ดังนั้นหากเขาแสดงความเป็นใหญ่เหมือนตนเองเป็นจ่าฝูง คุณต้องคอยสอน และฝึกฝนวินัย ทำให้สุนัขรู้ว่า สถานะอยู่ตรงไหน แม้ว่าจะโตเต็มวัยแล้วก็ตาม คุณยังต้องฝึกวินัยให้กับเขาเป็นระยะ ๆ

 
12.การเปลี่ยนพฤติกรรมก้าวร้าวของสุนัข

ถ้าลูกสุนัขแสดงความก้าวร้าว เช่น หวงอาหาร หวงของเล่น ขู่เวลาจับอาบน้ำวิธีสอน คือ จับเขานอนตะแคงราบไปกับพื้น แล้วใช้มือกดคอไว้ ให้คุณกดไว้อย่างนี้ จนกระทั่งสุนัขยอมจำนน และคลายอารมณ์ลงคุณจึงปล่อยมือ (ทำอย่างนี้หลายนาทีโดยเฉพาะครั้งแรก) ที่สำคัญให้เรียกชื่อสุนัขเบาๆ ระหว่างที่คุณกดคอเขาด้วยนะคะ

เมื่อสุนัขอายุได้ 1-2 ปี อาจมีปัญหาทางด้านพฤติกรรมที่ยากเกินกว่าจะแก้ไขได้ หากคุณเริ่มฝึกฝนเขาอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เอาใจใส่ ให้ความรัก และชมเชยเขาอย่างสม่ำเสมอ เขาก็จะเป็นสุนัขที่น่ารักของคุณ

ติดตามข้อมูลดี ๆ สำหรับคนรักสัตว์ได้ที่
FB Page : Yippee Happy
ข้อมูลอ้างอิง
1. petcitiz.info
2. Your Dog Watches You and Interprets Your Behavior ของ Stanley Coren Ph.D., F.R.S.C.