หนวดของน้องแมวนั้นสำคัญไฉน ?
ความสำคัญของ...หนวดแมว
หนวดแมวไม่เพียงแค่ช่วยทำให้น้องแมวดูน่ารักขึ้น แต่เปรียบเสมือนตัวรับความรู้สึก เป็นเรด้าห์ในการตรวจจับสิ่งเคลื่อนไหวรอบตัว และยังสามารถใช้คำนวณความกว้าง-ยาวของช่อง หรือรูที่จะลอดผ่านได้ด้วย
หากเจ้าเหมียวไร้ซึ่งหนวด ก็เหมือนชีวิตพิการไปชั่วครู่ สูญเสียตัวรับความรู้สึก เดินลำบาก ตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างช้า และหาอาหารยากขึ้น
หลายคนที่เลี้ยงแมวคงอาจจะเคยลองตัดหนวดแมวมาบ้างตามความเชื่อของแต่ละคน แต่รู้หรือไม่ว่าการตัดหนวดแมวนั้นเป็นการทรมานแมวอย่างหนึ่งเลยล่ะค่ะ เพราะจะทำให้แมวหมดความมั่นใจ ใช้ชีวิตได้ไม่ปกติเช่นเดิม เหมือนเป็นการทำให้แมวตัวน้อยพิการไปชั่วคราวได้เลย
ว่ากันด้วยเรื่องของหนวดแมว เส้นหนวดแข็ง ๆ เหล่านั้นเรียกว่า Vibrissae หรือ Tactile hairs ก็คือ “ขน” ซึ่งมีหน้าที่ในการสัมผัส และให้ความรู้สึก ขนเหล่านี้จะมีความหนา แข็งแรง กว่าขนส่วนอื่น และหนวดที่เห็นก็ไม่ได้มีเพียงแค่บริเวณแถบริมฝีปากเท่านั้น แต่ยังมีที่อื่นอีกด้วย คือ ขนแข็งที่อยู่เหนือตา (คิ้วของแมว) และข้างกระพุ้งแก้มไปทางด้านหลัง กับเส้นสั้น ๆ หนา ๆ ที่อยู่ด้านหลังของขาหน้า หนวดพวกนี้จะมีความหนาประมาณ 2 เท่าของขนแมวธรรมดา
หากเพื่อน ๆ ที่เลี้ยงแมวเคยสังเกตกันล่ะก็ ไม่ว่าแมวจะอยู่ในอิริยาบถใด ก็จะมีการปรับระดับ และตำแหน่งของหนวดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละสถานการณ์ เช่น เวลาที่เราพยายามจะแตะหนวด เวลาไล่จับหนู แมลง หรือกำลังไล่ล่าสิ่งที่คิดว่าเป็นเหยื่อ แมวน้อยก็จะทำตาโต นั่งยองๆ พร้อมกับขยับหนวดพุ่งไปด้านหน้าเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของเหยื่อ เปรียบเสมือนเรดาห์ตรวจจับสิ่งเคลื่อนไหวรอบตัวเลยก็ว่าได้
รวมไปถึงเวลาที่แมวตกอยู่ในสถานการณ์อยากรู้อยากเห็น หรือจดจ้องกับอะไรบางอย่างอยู่ และในทางตรงกันข้ามเวลาที่แมวอยู่เฉยๆ หนวดของแมวก็จะอยู่ในรูปแบบปกติ ส่วนเวลาที่ดมอาหารก็จะขยับหนวดไปด้านหลัง เพื่อให้สูดกลิ่นหอมของอาหารได้เต็มที่ค่ะ
สาเหตุที่หนวดแมวสามารถปรับตำแหน่ง หรือขยับได้ เป็นเพราะว่าหนวดแมวเปรียบเสมือนอีกหนึ่งอวัยวะของร่างกาย สามารถรับรู้ความรู้สึกได้ผ่านทางหนวด หนวดของแมวจะเชื่อมติดกับเนื้อเยื่อที่มีปลายประสาทมากมาย เรียกว่าตัวรับความรู้สึก (sensory receptor) ด้วยรากขนที่มีความลึกลงไปกว่าสามเท่า รายล้อมไปด้วยเส้นประสาทและหลอดเลือด ทำให้แมวสามารถรับความรู้สึก แรงสั่นสะเทือน คลื่นไฟฟ้า หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวที่เบาที่สุดในอากาศพูดง่าย ๆ ก็คือ แมวสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งต่าง ๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องหันไปมอง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวแมวเมื่ออยู่ในความมืด เป็นเหมือนตาที่สองของแมวเลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้ หนวดแมวยังใช้นำทางเวลาที่แมวผ่านเข้าช่องหรือรูในที่แคบ ๆ ได้อีกด้วย เพราะหนวดแมวสามารถวัด หรือกะขนาดของความกว้างระหว่างช่องที่จะผ่าน เพื่อเทียบกับขนาดลำตัวของมันเอง เมื่อในระยะของหัวและหนวดผ่านช่องได้ นั่นก็แปลว่าตัวแมวนั้นสามารถผ่านไปได้เช่นกัน ที่จริงแล้วขนาดความกว้างของหนวดจะเท่ากับขนาดความกว้างของขนาดลำตัวแมว จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแมวเปอร์เซียถึงได้มีหนวดที่ยาวมาก ซึ่งเป็นเพราะขนที่ฟูฟ่องนั้นเอง
หากเจ้าเหมียวสูญเสียหนวดไปจะเกิดอะไรขึ้น!! ไม่ว่าจะเกิดจากความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ทันทีที่น้องแมวเสียหนวดไป ก็เหมือนกับแมวสูญเสียตัวรับความรู้สึกไปด้วย ทำให้หาอาหารได้ยากขึ้น ไม่รู้ว่าเหยื่ออยู่ตรงไหน เดินทางลำบากขึ้น การคำนวณพื้นที่แคบกว้าง หรือช่องที่ต้องเดินผ่านนั้นก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน การตอบสนองช้าลงอาจทำให้น้องแมวเดินชนสิ่งของรอบตัวได้
หนวดแมวมีประโยชน์มากมายกว่าที่คิด สำหรับเราอาจจะมองว่าหนวดทำให้แมวดูน่ารักขึ้น แต่สำหรับน้องแมวเอง หนวดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งในชีวิตของพวกเขาเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเลิกความเชื่อที่ว่าตัดหนวดแมวแล้วจะทำให้แมวไม่หนีออกจากบ้าน...รักน้องแมวต้องเลี้ยงอย่างถูกวิธีนะคะ
ที่มา : petcitiz
ติดตามข้อมูลดี ๆ สำหรับคนรักสัตว์ได้ที่
FB Page :
Yippee Happy