ต้นอ่อนข้าวสาลีกับเจ้าเหมียว

 

ประโยชน์ที่น้องแมวจะได้รับจากการกินต้นอ่อนข้าวสาลีก็มีดังนี้
1.   มีวิตามิน แร่ธาตุหลากหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแมว
2.   มีอนุมูลอิสระช่วยต่อต้านมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
3.   ช่วยเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันภาวะโลหิตจาง
4.   ช่วยให้หลอดเลือดมีความแข็งแรง ขยายหลอดเลือด
5.   มีไฟเบอร์ ช่วยในระบบขับถ่าย ป้องกันท้องผูก
6.   ช่วยล้างสารพิษ
7.   ช่วยขจัดก้อนขนในท้องแมว
8.   ช่วยให้ลำไส้แมวทำงานได้ดีขึ้น
9.   ช่วยบำรุงหัวใจ
10. ช่วยลดกลิ่นปากแมว
11. ช่วยลดกลิ่นอุจจาระแมว
12. ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
13. ช่วยให้ภูมิต้านทานในร่างกายแมวเพิ่มขึ้น
14. ช่วยลดแผลหรือการอักเสบในกระเพาะอาหาร
 

วิธีการปลูกต้นอ่อนข้าวสาลีสำหรับน้องแมว
หากคุณเจ้าของซื้อชุดอุปกรณ์สำหรับการปลูกต้นอ่อนข้าวสาลีสำหรับแมว จะมีคำแนะนำในการปลูกอยู่ด้านใน แต่วันนี้ ยิปปี้ แฮปปี้ ได้รวบรวมคำแนะนำพื้นฐานเกี่ยวกับการดูแล และการปลูกต้นอ่อนข้าวสาสีสำหรับแมวมาไว้ในบทความนี้ค่ะ
1.  ก่อนที่ต้นหญ้าจะงอก ควรดูแลให้เมล็ดชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลาแต่อย่ามากเกินไปจนน้ำท่วม เมื่อต้นอ่อนงอกแล้วให้รดน้ำน้อยลง และควรใช้น้ำดื่ม หรือน้ำที่สะอาดหญ้าที่ได้ก็จะสะอาดปลอดภัย เพื่อสุขอนามัยของเจ้าเหมียว
2.  ต้นอ่อนจะใช้เวลาประมาณ 3 - 7 วันในการงอก
3.  ต้นอ่อนจะโตเต็มที่พร้อมสำหรับให้แมวรับประทานใน 10 - 14 วันหลังจากที่ต้นอ่อนงอก หรือเมื่อหญ้ามีความสูงประมาณ 4 นิ้ว และจะอยู่ได้นาน 1-3 สัปดาห์
4.  คอยดูแลให้หญ้าได้รับแสงตามธรรมชาติ และได้รับน้ำทุกวันเป็นประจำ
5.  อย่ารดน้ำมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
6.  แมวสามารถกินหญ้าจากกระถางได้เลย
7.  เมื่อหญ้าเริ่มเหี่ยวหรือเปลี่ยนสี ให้เริ่มทำการปลูกใหม่
คุณค่าสารอาหารของต้นอ่อนข้าวสาลีมีมากมายนานัปการ  แต่ทุกสิ่งที่กินย่อมต้องมีความพอดีเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ไม่น้อยจนขาด และไม่มากจนส่งผลเสียแก่ร่างกาย ดังนั้นคุณเจ้าของต้องไม่ลืมที่จะคำนึงถึงปริมาณต้นอ่อนข้าวสาลีที่จะให้น้องแมวกินเพียง 1 มื้อต่อวันเท่านั้นเพื่อพวกเขาจะมีสุขภาพที่ดี และแข็งแรงอยู่กับเราไปนาน ๆ ค่ะ

ข้อมูลอ้างอิง : Dogilike, pet.kapook, honestdocs