ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยอากาศมักจะร้อนจัด  ตัวเราเองยังร้อนจนรู้สึกกระวนกระวาย แล้วน้องหมาที่มีขนปกคลุมทั้งตัวจะทรมานขนาดไหน !?!... และยังมีโรคอันตรายมากมายที่มาพร้อมกับความร้อนที่สามารถทำให้น้องหมาช็อกจนเสียชีวิตได้  ยิปปี้ แฮปปี้ จึงมีวิธีดูแลสุนัขในช่วงหน้าร้อน รวมถึงโรคของสุนัขที่ต้องระวังในหน้าร้อน คุณเจ้าของจะได้ดูแลน้องหมาได้ถูกวิธีสำหรับหน้าร้อนที่จะมาถึงนี้นะคะ

1. ฮีทสโตรก
โรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด เป็นอาการที่อุณหภูมิร่างกายของสุนัขสูงผิดปกติ มักจะเกิดตอนที่สุนัขออกกำลังกาย วิ่งเล่นกลางแดด ช่วงกลางวันที่มีอุณหภูมิสูง หรือถูกปล่อยไว้ในรถนาน ๆ ฉะนั้นหากพาสุนัขออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เจ้าของควรดูแลอย่างใกล้ชิดให้น้องหมาดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ และเลี่ยงให้เขาเผชิญกับบริเวณที่มีความร้อนสูง

2. ผิวหนังไหม้แดด
ผิวของสุนัขก็สามารถโดนแดดเผาได้เหมือนกันกับคน โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนสีขาวและบาง ซึ่งโรคนี้มักจะทำให้เกิดอาการคัน ผิวหนังลอก ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการทาครีมกันแดดสำหรับเด็กหรือสุนัขโดยเฉพาะ โดยทาบริเวณหาง หู จมูก และหลัง

3. เท้าไหม้
ทางเดิน ถนน หาดทราย สามารถแผดเผาเท้าของน้องหมาให้ไหม้ได้ ถ้าจะพาพวกเขาไปเดินเล่นควรพาไปตอนเช้าหรือตอนเย็นที่มีแดดอ่อน ๆ หลีกเลี่ยงช่วงที่มีแดดจัด หรือใสร้องเท้าสำหรับสุนัขเพื่อป้องกันเท้าช่วยไม่ให้เท้าของน้องหมาสัมผัสความร้อนจากพื้นที่จะทำให้อุ้งเท้าของเขาพุพอง  แต่หากใส่รองเท้าให้น้องหมาในช่วงอากาศร้อนต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้เท้าของน้องหมา ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ใช้ระบายความร้อนของร่างกาย ทำหน้าที่ระบายความร้อนได้ไม่ดีและอาจส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น จึงควรใส่เฉพาะที่จำเป็นจริงเท่านั้น

4. ภาวะร่างกายขาดน้ำ
เมื่อสุนัขมีอุณหภูมิร่างกายสูง สุนัขจะระบายความร้อนด้วยการหอบหายใจ และนั่นก็อาจจะทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำได้  สังเกตอาการได้จากจมูกและเหงือกจะแห้ง กล้ามเนื้ออ่อนแรง วิธีป้องกัน คือนำน้ำใส่ถ้วยวางไว้บริเวณที่สุนัขสามารถกินได้สะดวก ส่วนการให้อาหารควรให้อาหารเหลวแทนอาหารเม็ดก็ช่วยได้เช่นกัน

5. แมลงและเห็บหมัด
ช่วงหน้าร้อนจำนวนของเห็บ หมัด ยุงและแมลงต่าง ๆ จะเยอะเป็นพิเศษ สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดสเปรย์กันแมลง รวมถึงการรักษาความสะอาดและอาบน้ำให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ

6. โรคภูมิแพ้
หมัด เชื้อรา เกสรดอกไม้ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ มักจะมากับอากาศร้อน โรคภูมิแพ้จะทำให้สุนัขเกิดอาการคันตามผิวหนังอย่างรุนแรง ทั้งยังมีอาการไอ จาม และรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงด้วยการไม่พาพวกเขาข้าใกล้พื้นที่ที่มีโอกาสได้รับเชื้อเหล่านี้


 

1. ห้ามปล่อยสุนัขไว้ในรถตามลำพัง ถึงแม้ว่าจะเปิดกระจกไว้ก็ตาม เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะฮีตสโตรกได้
2. นำน้ำใส่ชามหรือถ้วยเอาไว้ให้เจ้าตูบ ตั้งไว้ในร่ม หมั่นคอยเติมน้ำบ่อย ๆ อย่าให้ขาด ที่สำคัญต้องเป็นน้ำที่สะอาดและเย็น
3. สุนัขที่มีอายุเยอะจะอ่อนไหวและเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่มากับอากาศร้อนเป็นพิเศษ จึงควรระมัดระวังและคอยสังเกตอาการของสุนัขอยู่เสมอ
4. ทำสระน้ำให้แช่น้ำเล่น โดยนำน้ำใส่สระยางพลาสติก ระดับน้ำไม่ต้องสูงสัก 2-3 นิ้วก็พอ นำไปไว้ในที่ร่มพร้อมเติมน้ำแข็งก้อนทำให้น้ำเย็น เพื่อช่วยลดอุณหภูมิร่างกายของสุนัขให้ลดลง
5. ถ้าเจ้าตูบไม่สามารถอยู่ในห้องแอร์ได้ให้เปิดพัดลมแทน
6. พาไปออกกำลังกายในตอนเช้าและตอนเย็นที่อากาศไม่ร้อนเท่านั้น
7. ไม่ควรตัดขนสุนัขในหน้าร้อน เพราะขนของสุนัขจะช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ ถ้าตัดหรือโกนจนสั้นผิวหนังของสุนัขจะโดนแดดเผาได้ง่ายขึ้น

ถึงแม้น้องหมาจะมีกลไกรักษาอุณหภูมิร่างกาย แต่ในบางกรณีแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และเมื่อเกิดโรคหรือภาวะที่เป็นอันตรายพวกเขาก็ไม่สามารถบอกเราได้อีกเช่นกัน ฉะนั้นเราซึ่งเป็นเจ้าของจึงต้องคอยสังเกตอาการ ถ้าพบอาการเหล่านี้ควรทำการรักษาเบื้องต้นและพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

บทความอ้างอิงจาก :  pet.kapook.com